1. Creative Business
ช่วงเวลาอันใกล้นี้กลุ่ม Generation Y จะเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นกำลังหลักในการทำงานบ่งบอกถึงการมีกำลังซื้อยู่ในมือ เนื่องจากหารายได้ด้วยตนเอง โดย Generation Y คือกลุ่มคนที่เกิดช่วง 1981-1997 บุคคลกลุ่มนี้มีลักษณะชื่นชอบสินค้าในสิ่งที่จะแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์หรือแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ มีความแปลกแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ขณะที่ราคาต้องเหมาะสมและคุ้มค่า ซึ่งวิธีเข้าถึงคนกลุ่มนี้จึงต้องสร้างประสบการณ์กับสินค้าให้กับผู้ใช้ได้เข้าถึงสินค้า มีการโต้ตอบสื่อสารจากแบรนด์โดยตรงและรวดเร็ว มีความรู้สึกว่าตนใกล้ชิดและเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
2. สินค้า/บริการผู้สูงวัยมาแน่
อย่างที่รู้กันดีว่าโลกกำลังเผชิญกับสภาวะอัตราการเกิดที่น้อยลง และประเทศไทยก็มีสภาวะไม่ต่างจากทั่วโลก จึงทำให้เรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและมีแนวโน้มผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นธุรกิจที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูผู้สูงอายุทั้งทางร่างกายและจิตใจจึงเป็นที่ต้องการ ทั้ง บริการและดูแลแบบ Nursing Home บ้านและคอนโดเพื่อผู้สูงอายุ การวางแผนการเงิน ประกันชีวิต-สุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภคที่เหมาะกับกลุ่มผู้สูงอายุ โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อตอบโจทย์อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแพคเกจจิ้ง โปรโมชั่น บริการเดลิเวอรี่ และอย่าลืมว่าการทำประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้สูงวัย ควรชัดเจน เข้าใจง่าย หากมีตัวหนังสือประกอบก็ควรทำขนาดตัวอักษรให้อ่านง่ายด้วยเช่นกัน
3. ที่สุดของยุคแห่งการดูแลตัวเอง
กระแสของการรักสุขภาพมาแรงไม่เคยเปลี่ยน และจะเติบโตไปมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งส่วนของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่อยากจะดูดีขึ้นหรือไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง รวมทั้งธุรกิจเครื่องสำอางที่ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 3 แสนล้านบาท ซึ่งแม้จะเต็มไปด้วยหลากหลายแบรนด์ในตลาดมากมาย แต่ความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นธุรกิจนี้ยังคงเปิดรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ ที่มีจุดเด่นต่างจากแบรนด์อื่นๆ และการดูแลตัวเองในที่นี้ ยังรวมถึงสินค้าออแกนิกที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกระแสรักสุขภาพไม่เคยห่างหายไปจากคนทุกวัย ทำให้เกิดการทำธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เราจึงเห็นสินค้ามากมายในยุคสมัยใหม่ที่เน้นการผลิตที่พิถีพิถันในวัตถุดิบและส่วนผสมมากเป็นพิเศษ
4. ก้าวสู่โลกดิจิทัลคือคำตอบ
ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าทำอะไรก็ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ธุรกิจจะเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น สิ่งที่เป็นภาพเลือนรางอยู่ในขนะนี้ เช่น Big Data Blockchain AI จะชัดเจนในปี 2024 ดังนั้นไม่ว่าจะทำธุรกิจประเภทใดก็ต้องปรับตัวและเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีและไอทีหยิบมาใช้ให้เหมาะสมเพื่อนำพาให้ธุรกิจสามารถเดินไปได้ไกลไม่หายไปจากตลาด
5. โลจิสติกส์ที่เป็นมากกว่าโลจิสติกส์
ขณะนี้ธุรกิจที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์มีการเรติบโตที่ก้าวกระโดด เมื่อโลกออนไลน์เติบโต โลจิสติกส์ ก็เติบโตเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งสินค้า เอกสาร อาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชอบความสะดวก สบาย รวดเร็ว ดังนั้นโลจิสติกส์เป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Customer Experience ที่ดีได้ เราจึงต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นพิเศษ โดยจะต้องมีความยืดหยุ่นในการวางแผนขีดความสามารถให้ตรงตามความต้องการ มีความคล่องตัวและมองเห็นภาพได้แบบ Real-time ตอบรับกับยุคแห่งเทคโนโลยีที่ไม่มีใครอยากรอ
เมื่อจับเทรนด์ธุรกิจที่จะมาในอนาคตอันใกล้ได้แล้ว ก็เริ่มหาไอเดียธุรกิจหรือปรับธุรกิจให้สามารถไปต่อได้ เพื่อวางแผนรับมือกับเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ที่มา : M Report